0 รายการ 0 บาท
สมัครสมาชิกฟรี ล็อกอินใช้งาน นโยบาบเวบไซต์  
 
 
  หน้าหลัก     เกี่ยวกับไร่พอใจ     สินค้าจากไร่พอใจ     เรื่องราวที่ไร่พอใจ     ติดต่อไร่พอใจ
ค้นหาเรื่องราว :
 
สมัครอีเมล์รับข่าวสารต่างๆ จากไร่พอใจ
 
 
 
 
พอเพียง ไม่ใช่อัตคัดขัดสน เป็นการพออยู่พอกิน เหลือแจกจ่ายขาย แล้วจึงขยายเพิ่มได้
 
 
     
 
     
 
เกษตรทฤษฏีใหม่
ตามรอยพระราชดำริของในหลวงของเรา
เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์
 
 
 
เกษตรทฤษฏีใหม่เป็นแนวคิดในการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดจากพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถในการที่ได้ทรงคิด ทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และแก้ไขในการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยทรงเริ่มศึกษาและวิจัยเชิงปฏิบัติตั้งแต่ปี พ.ศ.2532 ในพื้นที่ส่วนพระองค์ขนาด 16 ไร่ 2 งาน 23 ตารางวา ที่ ต.ห้อยบง อ.เมือง จ.สระบุรี โดยทรงเริ่มนำเอกสารออกมาเผยแพร่ในปี 2537 และทรงสร้างเป็นตัวอย่างต่างๆ มากมายในโครงการหลวง จากพระราชดำริที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศ
 
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีแนวพระราชดำริที่จะพัฒนาประสิทธิภาพทางการเกษตรที่สำคัญ เพื่อให้สอดคล้องต่อการดำเนินชีวิตของเกษตรกรให้เกิดความยั่งยืน นั่นคือ“การเกษตรทฤษฎีใหม่” ที่ทรงเน้นในเรื่องของการค้นคว้า ทดลอง และวิจัยหาพันธุ์พืชต่างๆ ใหม่ๆ ทั้งพืชเศรษฐกิจ เช่น หม่อนไหม ยางพาราฯลฯ อีกทั้งพืชเพื่อการปรับปรุงบำรุงดินและพืชสมุนไพร ตลอดจนการศึกษาเกี่ยวกับแมลงศัตรูพืช ทั้งนี้รวมทั้งพันธุ์สัตว์ต่างๆ ที่เหมาะสมเช่น โค กระบือ แพะ แกะ พันธุ์ปลา และสัตว์ปีกทั้งหลายด้วย เพื่อแนะนำให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติได้ราคาถูกและใช้เทคโนโลยีที่ง่ายและไม่สลับซับซ้อน ซึ่งเกษตรกรจะสามารถรับไปดำเนินการเองได้ และที่สำคัญคือ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ หรือเทคนิควิธีการดูแลต่างๆ นั้นต้องเหมาะสมกับสภาพสังคมและสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้นๆ ด้วย
 
 
 
อย่างไรก็ตาม มีพระราชประสงค์เป็นประการแรก คือ การทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ โดยเฉพาะในด้านอาหารก่อนเป็นอันดับแรก เช่น ข้าว พืชผัก ผลไม้ ฯลฯ แนวทางที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การที่ทรงพยายามไม่ให้เกษตรกรพึ่งพาอยู่กับพืชเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว เพราะจะเกิดความเสียหายง่าย เนื่องจากความแปรปรวนของตลาดและความไม่แน่นอนของธรรมชาติ ทางออกก็คือเกษตรกรควรจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากภาคเกษตร เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือนของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งดำเนินงานสนับสนุนงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปัจจุบันสภาพของทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ที่ดิน แหล่งน้ำ ให้อยู่ในสภาพที่จะมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างมากที่สุด
 
 
 
3 ขั้นตอนหลักยึดใน เกษตรทฤฏีใหม่ของในหลวง
 
พระราชดำริ "ทฤษฎีใหม่" เป็นแนวทางหรือหลักการในการจัดการทรัพยากรระดับไร่นาคือที่ดินและน้ำ เพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการดำเนินการทฤษฎีใหม่ ได้พระราชทานขั้นตอนดำเนินงาน ดังนี้
 
ขั้นตอนแรก ทฤษฎีใหม่ขั้นต้น
 
สถานะพื้นฐานของเกษตรกร คือ มีพื้นที่น้อย ค่อนข้างยากจน อยู่ในเขตเกษตรน้ำฝนเป็นหลัก โดยในขั้นที่ ๑ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพของการผลิต เสถียรภาพด้านอาหารประจำวัน ความมั่นคงของรายได้ ความมั่นคงของชีวิต และความมั่นคงของชุมชนชนบท เป็นเศรษฐกิจพึ่งตนเองมากขึ้น มีการจัดสรรพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ให้แบ่งพื้นที่ ออกเป็น ๔ ส่วน ตามอัตราส่วน ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ซึ่งหมายถึง พื้นที่ส่วนที่หนึ่งประมาณ ๓๐% ให้ขุดสระเก็บกักน้ำ เพื่อใช้เก็บกักน้ำฝนในฤดูฝนและ ใช้เสริมการปลูกพืชในฤดูแล้ง ตลอดจนการเลี้ยงสัตว์น้ำและพืชน้ำต่าง ๆ (สามารถเลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกะเฉด ฯ ได้ด้วย) พื้นที่ส่วนที่สองประมาณ ๓๐% ให้ปลูกข้าวในฤดูฝน เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวันในครัวเรือนให้เพียงพอตลอดปี เพื่อตัดค่าใช้จ่ายและสามารถพึ่งตนเองได้ พื้นที่ส่วนที่สามประมาณ ๓๐% ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพื่อใช้เป็นอาหารประจำวัน หากเหลือบริโภคก็นำไปจำหน่าย และพื้นที่ส่วนที่สี่ประมาณ ๑๐% ใช้เป็นที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ และโรงเรือนอื่น ๆ (ถนน คันดิน กองฟาง ลานตาก กองปุ๋ยหมัก โรงเรือน โรงเพาะเห็ด คอกสัตว์ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผักสวนครัวหลังบ้าน เป็นต้น)
 
 
 
ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า เมื่อเกษตรกรเข้าใจในหลักการและได้ลงมือปฏิบัติตามขั้นที่หนึ่งในที่ดินของตนเป็นระยะเวลาพอสมควรจนได้ผลแล้ว เกษตรกรก็จะพัฒนาตนเองจากขั้น "พออยู่พอกิน" ไปสู่ขั้น "พอมีอันจะกิน" เพื่อให้มีผลสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงควรที่จะต้องดำเนินการตามขั้นที่สองและขั้นที่สามต่อไปตามลำดับ
 
ขั้นตอนที่สอง ทฤษฎีใหม่ขั้นกลาง
 
เมื่อเกษตรกรเข้าใจในหลักการและได้ปฏิบัติในที่ดินของตนจนได้ผลแล้ว ก็ต้องเริ่มขั้นที่สอง คือ ให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูปกลุ่ม หรือ สหกรณ์ ร่วมแรง ร่วมใจกันดำเนินการในด้าน
 
  1.
การผลิต เกษตรกรจะต้องร่วมมือในการผลิตโดยเริ่มตั้งแต่ ขั้นเตรียมดิน การหาพันธุ์พืช ปุ๋ย การหาน้ำ และอื่น ๆ
   
เพื่อการเพาะปลูก
 
  2.
การตลาด เมื่อมีผลผลิตแล้ว จะต้องเตรียมการต่าง ๆ เพื่อการขายผลผลิตให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น การเตรียมลานตากข้าวร่วม
   
กันการจัดหายุ้งรวบรวมข้าว เตรียมหาเครื่องสีข้าว ตลอดจนการรวมกันขายผลผลิตให้ได้ราคาดี และลดค่าใช้จ่ายลงด้วย
 
  3.
ความเป็นอยู่ ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีพอสมควร โดยมีปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต เช่น
   
อาหารการกินต่าง ๆ กะปิ น้ำปลา เสื้อผ้า ที่พอเพียง
 
  4.
สวัสดิการ แต่ละชุมชนควรมีสวัสดิการและบริการที่จำเป็น เช่น มีสถานีอนามัยเมื่อยามป่วยไข้ หรือมีกองทุนไว้ให้กู้ยืม
   
เพื่อประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ
 
  5.
การศึกษา มีโรงเรียนและชุมชนมีบทบาทในการส่งเสริมการศึกษา เช่น มีกองทุนเพื่อการศึกษาเล่าเรียนให้แก่เยาวชน
   
ของชุมชนเอง
 
  6.
สังคมและศาสนา ชุมชนควรเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาสังคมและจิตใจ โดยมีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยว
     
 
 
 
ขั้นตอนที่สอง ทฤษฎีใหม่ขั้นก้าวหน้า
 
เมื่อดำเนินการผ่านพ้นขั้นที่สองแล้ว เกษตรกรจะมีรายได้ดีขึ้น ฐานะมั่นคงขึ้น เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรก็ควรพัฒนาก้าวหน้าไปสู่ขั้นที่สามต่อไป คือ ติดต่อประสานงาน เพื่อจัดหาทุน หรือแหล่งเงิน เช่น ธนาคาร หรือบริษัทห้างร้านเอกชน มาช่วยในการทำธุระกิจ การลงทุนและพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ ทั้งฝ่ายเกษตรกรและฝ่ายธนาคารกับบริษัท จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน กล่าวคือ
 
 
- เกษตรกรขายข้าวได้ในราคาสูง (ไม่ถูกกดราคา)
   
 
- ธนาคารกับบริษัทสามารถซื้อข้าวบริโภคในราคาต่ำ (ซื้อข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง)
   
 
- เกษตรกรซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคได้ในราคาต่ำ เพราะรวมกันซื้อเป็นจำนวนมาก (เป็นร้านสหกรณ์ ซื้อในราคาขายส่ง)
   
 
- ธนาคารกับบริษัทจะสามารถกระจายบุคลากร (เพื่อไปดำเนินการในกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดผลดียิ่งขึ้น)
 
ในปัจจุบันนี้ได้มีการนำเอาเกษตรทฤษฎีใหม่ไปทำการทดลองขยายผล ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งกรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการจัดทำแปลงสาธิต จำนวน ๒๕ แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพภาค กระทรวงกลาโหม และกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการดำเนินงานให้มีการนำเอาทฤษฎีใหม่นี้ไปใช้อย่างกว้างขวางขึ้น
 
 
 
 
เกษตรทฤษฎีใหม่จึงเป็นแนวพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานมาเพื่อแก้ปัญหาจากปัจจัยต่างๆ ในภาคการเกษตร และได้รับการพิสูจน์และยอมรับกันอย่างกว้างขวางในหมู่เกษตรกรไทยแล้วว่า พระราชดำริของพระองค์สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริง และทำให้เกิดความสมบูรณ์พูนสุขขึ้น
 
ปัจจุบันมีโครงการหลวงมากมายหลายตัวอย่างที่เป็นต้นแบบให้เกษตรกร ได้เข้าไปศึกษา เรียนรู้ เพี่อนำมาเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งก็มีผู้นำแนวทางตามแบบเกษตรทฤษฏีใหม่ไปพัฒนาต่อยอดมากมายและประสพผลสำเร็จจนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ เช่น 2 ไร่แก้จน, เกษตรปราณีต 1 ไร่, 1 ไร่ได้เงิน 1 แสนบาท ฯลฯ
 
 
 
 
เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์
 
ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ ก็ได้เดินตามรอยพระราชดำริตามแบบ เกษตรทฤษฏีใหม่ เน้นการเกษตรอินทรีย์ ปลูกพืชผัก พืชไร่แบบผสมผสาน โดยพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด ค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ ทำ ไม่ได้ไช้เงินลงทุนมากมายมาหาศาล ทำทุกอย่างแบบพึ่งพาตนเอง ถึงวันนี้จะยังมีทุกอย่างไม่พร้อม แต่ก็มีความสุขใจที่ได้ทำ และจะพยายามทำต่อไปเพื่อเป็นหนทางหนึ่ง จุดเล็กๆ จุดหนึ่ง ของสังคม ที่พวกเราจะมาช่วยกันสร้างสรรค์ให้น่าอยู่ร่วมกันได้ นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ประสกนิกรชาวไทยอย่างยิ่ง ที่เรามีในหลวงที่ทรงห่วงใยความทุกข์สุขของประชาชนในประเทศ และยังทรงมีพระปรีชาสามารถมองเห็นปัญหา พร้อมแนวทางในการแก้ไข ทั้งยังทรงทำเป็นตัวอย่างให้เห็นอยู่ทั่วไปในประเทศของเราด้วย
 
 
รวมรูปภาพสำหรับ เกษตรทฤษฎีใหม่
 
 
 
 
 
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์
 
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่....
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์
     
           
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
  ข้าวหอมมะลิ 105 ธรรมชาติ 100%  
  ข้าวหอมมะลิ 105 ธรรมชาติ 100% เป็นข้าวหอม นุ่ม เหนี่ยว ปลูกในระบบนาโยน ใช่ปุ๋ยอินทรีย์หมักและสารหมักจากธรรมชาติเท่านั้น เป็นข้าวที่ปลูกได้เพียงปีละครั้ง ออกรวงกลางฤดูหนาวเท่านั้น ที่ไร่พอใจจะพิถีพิถันเอาใจใส่ให้ต้นข้าวเจริญเติบโตตามธรรมชาติ เพื่อให้ต้นข้าวเก็บสะสมสารอาหารต่างๆ ตามที่ควรจะเป็น ไม่จำเป็นต้องไปปรุงแต่ง สารอาหารที่ได้นี้จึงเป็นสารอาหารจากธรรมชาติซึ่งจำเป็นสำหรับร่างกายอย่างยิ่ง  
     
 
ขนาดบรรจุ : 1 กิโลกรัม
 
 
ราคา : 110 บาท
 
 
ราคาพิเศษ : 90 บาท
 
     
 
 
     
 
  ข้าวกล้องไตรลักษณ์ธรรมชาติ 100%  
  ข้าวกล้องไตรลักษณ์ธรรมชาติ เป็นข้าวกล้องผสม 3 สายพันธุ์ คือ ข้าวกล้องหอมมะลิ + ข้าวกล้องทับทิมชุมแพ+ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ทุกพันธุ์เป็นการทำนาแบบธรรมชาติทั้งสิ้น 1 ปีปลูกได้เพียงครั้งเดียว เพราะต้องการให้ข้าวไปออกรวงเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวสามารถสะสมสารอาหารได้เต็มที่ เราเน้นปลูกข้าวให้เป็นยา  
     
 
ขนาดบรรจุ : 1 กิโลกรัม
 
 
ราคา : 120 บาท
 
 
ราคาพิเศษ : 110 บาท
 
     
 
 
     
 
  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ธรรมชาติ 100%  
  ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่ธรรมชาติ 100% ข้าวที่ปลูกโดยวิธีนาโยน เจริญเติบโตได้ดีตามธรรมชาติในฤดูหนาวเท่านั้น ในแต่ละปีจึงปลูกได้เพียงครั้งเดียว ที่ไร่พอใจจะพิถีพิถันเอาใจใส่ให้ต้นข้าวเจริญเติบโตตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้ข้าวกล้องที่มากคุณค่าสารอาหาร มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าข้าวทุกชนิด เมล็ดข้าวมีสีม่วงอมดำ ให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างสูง ช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ มากมาย เมื่อหุ่งข้าวจะมีสีที่สวยงาม หอมนุ่มน่ารับประทาน  
     
 
ขนาดบรรจุ : 1 กิโลกรัม
 
 
ราคา : 120 บาท
 
 
ราคาพิเศษ : 110 บาท
 
     
 
 
     
 
  ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 ธรรมชาติ 100%  
  ข้าวกล้องหอมมะลิ 105 ธรรมชาติ 100% เป็นข้าวหอม นุ่ม เหนี่ยว ปลูกในระบบนาโยน ใช่ปุ๋ยอินทรีย์หมักและสารหมักจากธรรมชาติเท่านั้น เป็นข้าวที่ปลูกได้เพียงปีละครั้ง ออกรวงกลางฤดูหนาวเท่านั้น ที่ไร่พอใจจะพิถีพิถันเอาใจใส่ให้ต้นข้าวเจริญเติบโตตามธรรมชาติ เพื่อให้ต้นข้าวเก็บสะสมสารอาหารต่างๆ ตามที่ควรจะเป็น ไม่จำเป็นต้องไปปรุงแต่ง สารอาหารที่ได้นี้จึงเป็นสารอาหารจากธรรมชาติซึ่งจำเป็นสำหรับร่างกายอย่างยิ่ง  
     
 
ขนาดบรรจุ : 1 กิโลกรัม
 
 
ราคา : 110 บาท
 
 
ราคาพิเศษ : 90 บาท
 
     
 
 
     
 
 
 
พันธมิตรโฆษณา
 

 

 
 
 
 
     
 
 
    ติดต่อเวบมาสเตอร์ :    
 
 
             
สงวนลิขสิทธิ์โดย.....
ไร่พอใจ เกษตรกรรมธรรมชาติ
 
ที่อยู่บริษัท.....
121 หมู่ 6 ต.กุดจอก อ.หนองมะโมง
จ.ชัยนาท 10270
 
เบอร์โทรศัพท์.....
093-0367910, 02-9933305
 
เบอร์แฟกซ์์.....
02-9933306    Line ID : raiporjai
 
 
 
อีเมล์ติดต่อ.....
sales@raiporjai.com
 
 
 
 
หัวข้อเมนูหลักในเวบไซต์.....
กลับหน้าหลัก
เกี่ยวกับไร่พอใจ
สินค้าจากไร่พอใจ
เรื่องราวที่ไร่พอใจ
มุมสมาชิก
ติดต่อเวบไซต์
 
 
เมนูอื่นๆ ในเวบไซต์.....
สมัครสมาชิก
สมาชิกล็อกอิน
แจ้งชำระเงินค่าสินค้า
สมาชิกลืมรหัสผ่าน