ข้าวอินทรีย์ ข้าวธัญโอสถ
เมล็ดแคปซูลยาจากธรรมชาติ เพื่อชิวิตใหม่ |
 |
เรื่องและเรียบเรียงโดย ตุ๊แสนฤทธิ์ |
 |
|
|
|
ในสมัยโบราณคนรุ่นเก่ามักจะสอนกันจนพูดติดปากว่า "กินข้าวให้เยอะๆ กินกับให้น้อยๆ" มันไม่ใช้ความยากจนที่ท่านสอนให้เรากินแต่ข้าวเยอะๆ แต่ข้าวในสมัยก่อน เป็นข้าวซ้อมมือ เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่มีคุณค่าทางอาหารทำให้ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรคภัย และนั้นเป็นก็เพราะว่าข้าวเป็นอาหารที่มีสรรพคุณที่เป็นยานั่นเอง |
|
|
|
สรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ มีการดำรงอยู่ซึ่งเป็นไปตามสัญชาติญาณ เพื่อสืบเผาพันธุ์ลูกหลาน มิให้สิ้นวงศ์ชาติ ธรรมชาติของพืชก็เช่นกันเมื่อเติบโตจากต้นกล้า กลายเป็นต้นโตเต็มวัย จนกระทั้งเริ่มโรยลาเหี่ยวเฉาและแห้งตายไปในที่สุด แต่ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายนั้น พืชแต่ละชนิดก็ได้ดูดซึม ธาตุอาหารต่างๆ ที่อยู่ในดิน เพื่อนำมาหล่อเลี่ยงลำต้นให้เจริญเติบโต แบ่งปันส่วนที่เหลือให้กับฝูงผึ่ง แมลงต่างๆ ตลอดจนถึงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ได้ดำรงมีชีวิตให้อยู่รอดแล้ว พืชยังเก็บธาตุอาหารบางส่วนที่สำคัญสะสมไว้ตาม ต้น กิ่ง ก้าน ใบ เมื่อถึงระยะวัยอันควร พืชก็จะส่งลำเลียงไปเก็บไว้ในส่วนของเมล็ด เพื่อให้เป็นอาหารสำหรับชีวิตใหม่ที่จะงอกงามในวันข้างหน้าต่อไป |
|
|
|
|
ความสำคัญของ สารอาหารในเมล็ดพืช |
|
สารอาหารที่อยู่ในเมล็ดพันธุ์พืช เป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างยิ่ง เป็นสารอาหารที่จะนำไปหล่อเลี้ยงต้นอ่อนที่จะงอกเป็นชีวิตใหม่ขึ้นมา ให้เจริญงอกงาม และสามารถต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืชได้ในระยะที่ต้นกล้าอ่อนอยู่ในฃ่วงบอบบาง เป็นสารอาหารที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับต้นกล้าน้อยๆ จะได้มีชีวิติรอดเติบใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ |
|
|
|
|
|
หากเป็นเมล็ดข้าว เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นมาจากเมล็ด ต้นกล้านี้ จะยังไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารทางดินเลย ตลอดอายุที่เริ่มงอกจนถึง 25 วัน ต้นกล้าจะดูดกินสารอาหารที่ต้นแม่นำมาเก็บสะสมไว้ที่เมล็ดให้ สารอาหารที่อยู่ในเมล็ดนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากสำหรับชิวิตใหม่ หากข้าวต้นแม่พันธุ์เจริญเติบโตในที่ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีฮิวมัสมากพอซึ่งแปรสภาพมาจากซากพืชซากสัตว์ จากกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในดินแล้ว ต้นกล้าน้อยๆ ก็จะมีชีวิตที่เจริญเติบโตงอกงาม เป็นต้นข้าวที่แข็งแรง โดยมีภุมิคุ้มกันป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชต่างๆ มิต้ิองพึงพิงองค์ประกอบจากภายนอกเลย สารอาหารที่อยู่ในเมล็ดพันธุ์นี้ นอกจากจะมีประโยชน์ต่อต้นกล้าน้อยๆ แล้ว ก็ยังเป็นธัญโอสถชั้นเลิศสำหรับมนุษย์เรา สามารถใช้เป็นยารักษาและป้องกันโรคจากการเจ็บป่วยได้สารพัด ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชพันธุ์นั้นๆ |
|
|
|
|
เมล็ดพันธุ์ที่ดี ก็ต้องปลูกจากดินที่มีชีวิต |
|
การที่จะได้ธาตุอาหารหรือสารอาหารในเมล็ดครบถ้วน มีคุณค่าทางยารักษาและป้องกันโรคภัย พื้นที่ดินที่ใช้ปลูกต้นแม่พันธุ์ของพืชก็ต้องมีความอุดมสมบูรณ์ ต้องมีธาตุอาหารพร้อมทุกอย่าง เพื่อให้พืชได้ดูดซึมและนำไปปรุงเป็นสารอาหารธัญโอสถ ซึ่งพืชจะนำไปเก็บไว้ในเมล็ดเพื่อชีวิตใหม่ มันคงมิใช่แปลงพืช ผัก ผลไม้ ที่เอาแต่ใส่ปุ๋ยยูเรียอย่างเดียว หรือปุ๋ยสูตรเคมีที่มีธาตุอาหารไม่กี่ตัว แล้วติดตามด้วยสารเคมีสำหรับฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง และโรคพืชต่างๆ บางครั้งยิ่งเลวร้ายเพิ่มขึ้นอีก ที่ทำการฉีดพ่นสารเคมีได้ไม่กี่วันก็ทำการเก็บเกี่ยวเลย ลองคิดดูว่าแล้วเมล็ดพันธุ์ที่ได้จะมีสภาพสรรพคุณที่เป็นยาหรือสารพิษกันแน่ |
|
|
|
|
|
ทุกๆ วันเรากินข้าวธัญโอสถ หรือสารพิษกันแน่ |
|
การบริโภคข้าวของคนไทยเรา มีมาเป็นเวลายาวนานมาแต่โบร่ำโบราณ ในสมัยก่อน สมัยพ่อแม่ของปู ย่า ตา ยาย เรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า "กินข้าวเยอะๆ กินกับน้อยๆ" มันไม่ใช้ความยากจนที่ท่านสอนให้เรากินแต่ข้าวเยอะๆ แต่ข้าวในสมัยก่อน เป็นข้าวซ้อมมือ เป็นข้าวพันธุ์พื้นบ้านที่ในเมล็ดมีแร่ธาตุคุณค่าทางอาหารในปริมาณที่มากและครบถ้วน ทำให้ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรคภัยได้ดี ซึ่งพันธุ์ข้าวพื้นบ้านเหล่านั้นเมื่อนำไปปลูกจะตอบสนองต่อปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ที่ให้ธาตุอาหารในดินอย่างหลากหลายได้ดี ต้นข้าวจึงสามารถสะสมสารอาหารที่จำเป็นต่อชิวิตใหม่ได้มากมายไว้ในเมล็ด โดยเฉพาะที่ผิวชั้นนอกของเมล็ด ไม่เหมือนข้าวเคมีในปัจจุบัน ที่มีผิวชั้นนอกที่บางแต่มีแป้งเป็นส่วนประกอบเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากพันธุ์ข้าวที่ถูกพัฒนาขึ้นมา จะตอบสนองต่อปุ๋ยเคมีที่มีธาตุอาหารเพียงไม่กี่ชนิด ซึ่งต้นข้าวจะเปลี่ยนไปเป็นแป้งในเมล็ดเท่านั้นเอง เมื่อมนุษย์เราบริโภคเข้าไป ร่างกายก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดเป็น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน ตามมาด้วยโรคหัวใจ และยังไม่พอเนื่องจากเมล็ดข้าวได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนเพื่อเลี้ยงดูต้นอ่อนให้แข็งแรง ดังนั้นกระบวนการในการเพาะปลูกจึงต้องใช้สารเคมีฉีดพ่นเพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช ยิ่งเป็นการเพิ่มสารพิษแถมมาพร้อมในเมล็ดข้าว ที่สำคัญข้าวเป็นอาหารหลักที่คนไทยอย่างพวกเราต้องบริโภคทุกมือ จึงเกิดการสะสมในร่างกายทุกวัน วันละ 3 เวลา และในอากาศที่หายใจก็เต็มไปด้วยมลพิษและสารพิษ เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายอ่อนแอขึ้นยามใด โรคร้ายแรงก็จะเริ่มประกาศศักดา และที่เห็นจะน่ากลัวที่สุดก็คงจะเป็นโรคมะเร็งร้ายนั่นเอง |
|
|
|
|
เมล็ดพันธุ์ข้าวจะเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อชิวิต จะเป็นเมล็ดธัญโอสถได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้นข้าวแม่พันธุ์ต้องเป็นพืชพันธุ์สายอินทรีย์ เมื่อนำมาปลูก ก็ต้องนำมาปลูกในแปลงที่เป็นอินทรีย์ บนพื้นที่ที่มีดินที่ดีมีชีวิต และมีซากพืชซากสัตว์เพื่อเป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ หรือบางครั้งเราอาจะเพิ่มเติมใส่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์สำหรับปรับปรุงดิน เพื่อที่ต้นข้าวจะได้ดูดซึมแล้วเปลี่ยนเป็นธาตุอาหาร และลำเลียงนำไปเก็บไว้ที่เมล็ด เราจึงจะได้เมล็ดพันธุ์ที่มีสารอาหารที่สำคัญต่อชิวิตและเป็นธัญโอสถ เป็นยาให้กับเรา |
|
|
|
|
|
ที่ไร่พอใจ เกษตรอินทรีย์ เมื่อมีการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ จะไม่มีการเผาฟางข้าวและตอซัง แต่จะปล่อยให้ฟางข้าวคลุมดินไว้ และย่อยสลายกลายเป็นปุ่ยลงในดิน ที่บางแปลงที่หญ้าขึ้นรก ยิ่งจะทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากหญ้าเป็นวัชพืชที่แย่งอาหารได้เก่งกว่าข้าว และเจริญเติมโตได้ดีกว่า จึงมีการสะสมสารอาหารไว้ยังส่วนต่างๆ รวมทั้งเมล็ดไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อเราทำการไถกลบหญ้าในแปลงแล้วทำการหมักไว้ จะทำให้แปลงนาแปลงนั้นมีความอุดมสมบูร์มากขึ้นทันตาเห็น ในฤดูกาลนั้น เราจะสามารถปลูกข้าวโดยไม่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มก็ยังได้เลย |
|
|
รวมรูปภาพสำหรับ ข้าวอินทรีย์ ข้าวธัญโอสถ |
|
 |
|
|
|
|
 |
ความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ |
|
 |
แนวความคิด ของการทำเกษตรอินทรีย์ แบบยั่งยืน |
 |
แล้วคำว่า "เกษตรอินทรีย์" มันคือการเกษตรอะไรกันแน่.... |
 |
ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำเกษตรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซนต์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|